Main Menu

Recent posts

#1

TOYOTA Corolla Cross GR Sport สุดยอดของรถไฮบริดจ์ที่มีความโดดเด่นด้วยดีไซน์ ความหรูหรา และการใช้งานที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ เป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้เหนือชั้นกว่าแต่ก่อน และรุ่นธรรมดา ส่วนเรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็จัดเต็มให้ไม่จำกัด เป็นอีกรุ่นที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด เมื่อเทียบกับรถในเซคเม้นต์เดียวกัน มาดูว่าในปี 2023 นี้ มีอะไรเพิ่มเติมบ้าง

ขุมกำลังของ TOYOTA Corolla Cross GR Sport
TOYOTA Corolla Cross GR Sport ใช้เป็นเครื่องยนต์สันดาปและเครื่องยนต์ไฮบริดจ์จากมอเตอร์ ให้กำลังไฟฟ้าที่มากขึ้น
•   ใช้เครื่องยนต์แบบ 2ZR-FXE / 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
•   ปริมาตรความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 1,798 ซีซี
•   กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 98 แรงม้า ที่/ 5,200 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ 109 / 4,400 นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที
•   ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
•   อัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

มอเตอร์ไฟฟ้า
•   มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 600 โวลต์
•   กำลังไฟฟไสูงสุด 53 กิโลวัตต์
•   แรงบิด 163 นิวตันเมตร

ดีไซน์ภายนอก
TOYOTA Corolla Cross GR Sport รุ่นนี้ จะมาพร้อมกับหลังคาแบบมูนรูฟแบบไฟฟ้า ไฟส่องสว่างด้านหน้าแบบ LED แบบ Light Guiding ไฟท้ายเป็นแบบ LED แบบ Light Guiding เฉพาะรุ่น GR Sport กระจกมองข้ามพร้อมกับไฟเลี้ยวในตัว พับเก็บอัตโนมัติได้ กันชนด้านหน้าและสเกิร์ตด้านข้าง และกันชนด้านหลัง มาพร้อมกับชุดแต่งเฉพาะรุ่นของ GR Sport เท่านั้น

ดีไซน์ภายใน
TOYOTA Corolla Cross GR Sport ใช้เบาะจากหนังวัสดุสังเคราะห์ พร้อมกับดีไซน์แบบ GR พวงมาลัยตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน มือจับประตูด้านในเป็นแบบโครเมียม เบาะนั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง กระจกหน้าต่างเป็นแบบไฟฟ้า ป้องกันการหนีบทั้ง 4 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศในรถ

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
หน้าจอของ TOYOTA Corolla Cross GR Sport เป็นหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth รองรับการเชื่อมต่อระบบ Apple CarPlay มีระบบการโทรออกด้วยเสียง และระบบ T-Connext ลำโพงในรถทั้งหมด 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัยของ TOYOTA Corolla Cross GR Sport

สำหรับ TOYOTA Corolla Cross GR Sport ในรุ่นนี้ใช้เป็นระบบ ABS ป้องกันล้อล็อค และมีระบบกระจายแรงเบรค EBD มีระบบช่วยในการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยในการออกตัวบนทางลาดชัน สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อต้องเบรคกะทันหัน ไฟตัดหมอกหน้าหลังแบบ LED ถึงลมนิรภัย 4 จุดด้วยระบบ SRS ระบบช่วยเตือนมุมอับ ระบบช่วยในการถอยรถ และระบบไฟสูงวอัตโนมัติ

ราคา
TOYOTA Corolla Cross GR Sport มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,290,000 บาท

เป็นรถที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว สำหรับ TOYOTA Corolla Cross GR Sport คันนี้ในปี 2023 มีทั้งความทันสมัย โฉบเฉี่ยว และสวยงาม เหมาะกับทุกสภาพการใช้งาน จะใช้งานในเมืองหรือนอกเมืองก็คล่องตัว และของที่ให้มากับรถ ก็ให้มาเยอะสุดๆ คุ้มค่าคุ้มราคาเลย
#2

ล่าสุดค่าย MG ได้เข็นรถรุ่นใหม่จากทางค่ายออกมาอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย ในชื่อรุ่นว่า MG ES 2023 รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Wagon ที่มีเพียงไม่กี่รุ่นในท้องตลาดในเวลานี้ จัดหนักด้วยออฟชั่นมาเต็มรอบคัน ให้พื้นที่รุ่นที่เยอะคุ้มราคา 5 ประตู โดยราคาในประเทศไทยไม่ถึง 1 ล้านบาท!!!

ดีไซน์ภายนอกของ MG ES 2023
    รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้ปรับปรุงรูปโฉมใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงรูปลักษณ์แบบ Wagon เอาไว้เป็นอย่างดี โดยด้านหน้าของตัวรถ มีกระจังหน้าปิดทึบตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า และได้เปลี่ยนไฟหน้าใหม่เป็นแบบใหม่ที่ใช้ LED แบบเต็มระบบ มาพร้อมกับไฟ DRL แบบ LED ลายเส้นของไฟยาวตัดขอบทั้งฝากระโปรงหน้ารถสวยหรูโดดเด่น ส่วนด้านข้างของตัวรถ มีเอกลักษณ์แบบเป็นรถ Wagon ที่ทันสมัย ลายเส้นข้างตัวรถลากยาวตั้งแต่คิ้วไฟหน้าไปจนถึงไฟท้ายที่สวยงาม และด้านล่าง มีการต่อลายเส้นจากส่วนกันชนด้วย ทำให้รูปลักษณ์ของรถมีความปราดเปรียวโฉบเฉี่ยวมากยิ่งกว่าเดิม แล้วที่กันชนด้านหน้า จะมีกล้องที่มองได้กว่า 360 องศาติดอยู่ มาพร้อมกับเรด้าอีกด้วย ส่วนด้านหลังของรถ จะเป็นไฟท้ายดีไซน์ใหม่ล่าสุดของ MG

ดีไซน์ภายนอกของ MG ES 2023

    ภายในของรถรุ่นนี้มีการปรับปรุงยกเครื่องใหม่หมดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะจอมัลติมีเดีย ที่ได้อัพเกรดความใหญ่ขึ้นเป็น 10.25 นิ้ว ทั้งรองรับ Apple CarPlay กับ Andriod Auto ได้อย่างดี ด้านพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น ที่ช่วยควบคุมทุกการทำงานของรถได้อย่างทรงประสิทธิภาพ ส่วนจอไมล์ของรถเป็นหน้าจอ LCD เต็มระบบขนาด 7 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน ด้านระบบเกียร์เป็นแบบแป้นหมุนเช่นเดิม ใกล้ๆกันจะมีปุ่มเปลี่ยนโหมดการขับขี่ และ ปุ่มปรับ KERS ส่วนเบาะรถ เป็นแบบหนานุ่มนั่งสาย เบาะคนขับเป็นระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าเป็นระบบแมนนวล 4 ทิศทาง มีช่องใส่ของตรงกลางได้เยอะ และมีช่องเสียบ USB-A และ USB-C ที่ดี

ระบบความปลอดภัย MG ES 2023


    จัดมาแบบเต็มๆแน่นๆจุกๆกับความปลอดภัยของรถรุ่นนี้ ที่ให้อย่างคุ้มค่าเกินราคา ดังนี้, ถุงลมนิรภัยรอบคัน, กล้องรอบคันระบบ 3 มิติ, สัญญาณการถอยหลัง, ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ มีการตรวจจับรถยนต์/คน/จักรยาน/สิ่งของ ที่ไว้ใจได้, Adaptive Cruise Control, ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบการเตือนความเร็วของรถ, ระบบเตือนการออกนอกเลนให้รถให้อยู่ในเลนอย่างปลอดภัย เป็นต้น

ราคา MG ES 2023
ราคา MG ES 2023 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย อยู่ที่ประมาณ 959,000 บาท โดยรถรุ่นนี้มีอยู่รุ่นเดียวราคาเดียว
#3

เชียงราย คือจังหวัดที่อยู่เหนือที่สุดของประเทศไทย แต่ว่าไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับจังหวัดติดๆกันอย่าง เชียงใหม่ แต่หากว่าใครได้เคยไปเที่ยวมาแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าที่นี่ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ การได้มาเห็น การได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง มันรู้สึกถึงได้อย่างชัดเจน แล้วที่นี่ยังมีจุดแลนมาร์คที่สำคัญที่น่ามาท่องเที่ยวไม่น้อยเหมือนกัน วันนี้จึงจะมาแนะนำว่าหากได้มาเชียงราย จะต้องไม่พลาดกับสถานที่เหล่าที่ ที่จะทำให้หัวใจพองโตได้แน่ๆ

ต้องไม่พลาดกับ 5 จุด ณ เชียงราย

1.   วัดร่องขุ่น
นี่คือวัดที่สวยงามระดับประเทศเลยทีเดียว แล้วยังเป็นวัดที่โด่งดังไกลไปทั่วโลกอีกด้วย ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมมากมายจนนับไม่ถ้วน โดยเป็นวัดที่สร้างขึ้นจากฝีมือของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒ ที่ผสมผสานงานศิลปะระดับเทพกับวัดที่เป็นตัวแทนแห่งความเชื่อได้อย่างลงตัวเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งภายในวันแห่งนี้จะอาบไปด้วยสีขาวอยู่ทุกหนแห่ง ที่ความสวยงามนั้นทำเอาตะลึงได้ง่ายๆกันเลย

2.   เที่ยวสุดมันส์ที่สิงห์ปาร์ค
สิงห์ปาร์ค สถานที่ทั้งกว้างทั้งไกลสุดสายตา เป็นแลนมาร์คของจังหวัดที่ใครก็จะต้องมาเช็คอินให้ได้ ที่นี่พื้นที่มากถึง 8,000 ไร่ การเดินทางไปแต่ละจุดจึงจำเป็นจะต้องใช้รถเท่านั้น ซึ่งทางสิงห์ปาร์คได้เตรียมพร้อมบริการไว้อยู่แล้ว ที่นี่มีหลายจุดที่น่าสนใจเหมาะกับการมาเที่ยว เช่น กิจกรรมสุดหวาดเสียวมากมาย, เดินชมทุ่งหญ้าสีเขียวกับทุ่งดอกไม้นานาชนิด, มีสวนสัตว์ที่น่าสนใจ ขอบอกได้เลยว่าหากมาช่วงหน้าหนาว จะประทับใจแบบสุดๆแน่นอน

3.   Tree Top Walk
ใครที่กำลังมองหากิจกรรมสุดเสียวสุดท้าทาย ต้องมาที่นี่ Tree Top Walk ที่นี่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยสะพานที่ห้อยโหนท่ามกลางความสูงที่หวาดเสียวสุดๆ แต่ความสวยงามของที่นี่ก็มาเต็มเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่รักธรรมชาติ ชอบเดินป่าในรูปแบบใหม่มากๆ

4.   ภูชี้ฟ้า
พูดถึงชื่อนี้ไป มั่นใจว่าส่วนใหญ่ต้องเคยได้ยินแน่นอน เพราะความสวยงามของภูชี้ฟ้าคือของจริงไม่จกตา จุดไฮไลท์สำคัญที่สุดคือจุดที่มีหน้าผาปลายยอดแหลมชี้ไปยังประเทศลาวที่อยู่ติดกัน มันคือภาพวิวที่สวยสุดอลัง หากมาพร้อมกับหมอกและลมเย็นจะเป็นสิ่งที่สุดฟินแบบสุดๆ

5.   ภูชี้ดาว
ที่สุดท้ายที่อยากแนะนำในบทความนี้คือภูชี้ดาว ที่สามารถขึ้นไปมองวิวได้แบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น 360 องศา เป็นจุดชมทะเลหมอกที่งดงามเกินคำบรรยาย ช่วงที่ควรค่าแก่การมาที่สุดคือช่วงหน้าหนาว ที่รับรองว่าจะพบกับความตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ดอยไหนในประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง
#4

ภูทับเบิก สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกหนึ่งแห่ง โดยเฉพาะหน้าหนาว จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท้าลมหนาวบนภูแห่งนี้เยอะมาก อยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต แล้วคุณจะได้เห็นความงามของธรรมชาติที่แท้จริง ว่าเป็นอย่างไร ท่านที่เคยไปมาบ้างแล้ว ก็คงจะรู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไร้บางไปบ้าง แต่สำหรับท่านที่กำลังวางแผนอยากจะลองไปเที่ยว เราก็มีข้อมูลดีๆ มาให้ทุกท่านได้อ่าน เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจและวางแผนต่อไป

กิจกรรมที่น่าสนใจ
เมื่อท่านเดินทางมาถึงภูทับเบิกแล้ว กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมทำกัน ก็คือ
•   การชมทะเลหมอก เป็นจุดประสงค์หลักของคนที่มาเที่ยวที่ ภูทับเบิก เลยก็ว่าได้ ในช่วงเช้าของหน้าหนาว จะเป็นช่วงที่มีทะเลหมอกเยอะที่สุด บรรยากาศเหมือนกับว่าเรากำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าเลย บริเวณด้านหน้าของเรา จะเต็มไปด้วยหมอก ให้ความรู้สึกที่สดชื่น และเย็น ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ดีมากๆ สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมทะเลหมอก ก็คือช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เพราะว่าเป็นช่วงที่อากาศหนาวพอดี
•   ชมวิถีชีวิตของชาวม้ง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ภูทับเบิก ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวม้ง ซึ่งอาชีพหลักก็คือการทำไร่ทำสวน เช่น การปลูกกะหล่ำปลี และผักผลไม้อื่นๆ ที่มีในฤดูหนาว ดังนั้นท่านสามารถเข้ามาเที่ยวชมสวนเหล่านี้ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่เราอาจจะไม่เคยเห็นเท่าไหร่ ทั้งการแต่งตัวของเขา และวัฒนธรรมต่างๆ
•   เที่ยววัดพระมหาเจดีย์โพธิปักขิยธรรม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเจดีย์เพชร 37 ยอด เป็นวัดที่ท่านสามารถเข้ามาไหว้พระ ขอพรได้ด้วย
แต่ถ้าท่านใดที่อยากจะเที่ยวต่อ ยังไม่สุด แนะนำว่าให้ท่านเดินทางไปเที่ยวที่ภูหินร่องกล้าเพิ่มเติมได้ เพราะว่าระยะทางไม่ได้ห่างกันเท่าไหร่
การเดินทาง
นักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์มาเองได้เลย หรือจะเป็นรถจักรยานยนต์ รถตู้ ก็ได้เช่นกัน สามารถขับเข้ามาจนถึงสถานที่พักได้เลย ไม่ต้องแวะที่ไหน เรียกว่าการเดินทางค่อนข้างง่าย แล้วก็สะดวกมากๆ

ค่าบริการในการเข้าชม ฟรี

ที่พักและอาหาร
บนภูทับเบิกมีที่พักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่ไปเที่ยวที่นี่ นิยมกางเต้นท์กันมากกว่า ซึ่งท่านใดที่ไม่มีเต้นท์เป็นของตัวเอง ก็สามารถเช่ากับทางรีสอร์ทก็ได้ แต่ถ้าท่านใดอยากจะพักแบบบ้าน แบบรีสอร์ท ก็เลือกเช่าได้เช่นกัน ส่วนอาหารการกิน นักท่องเที่ยวสามารถนำขึ้นไปทานเองได้ หรือจะเลือกทานตามร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ ก็มีให้บริการเช่นกัน

พิกัดของ ภูทับเบิก
ตั้งอยู่ที่ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
#5

ประวัติ อ็อดสัน เอดูอาร์ กองหน้าชาวฝรั่งเศสของ คริสตัล พาเลซ
ทีมชาติ : ฝรั่งเศส U21 14 นัด – 17 ประตู (ยังไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่)
สโมสรปัจจุบัน : คริสตัล พาเลซ 69 นัด – 14 ประตู

อ็อดสัน เอดูอาร์ (Odsonne Édouard) เกิดวันที่ 16 มกราคม 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส เริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร AF Bobigny (2004-2011) จากนั้นย้ายสู่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แล้วได้เล่นฟุตบอลอาชีพในฤดูกาล 2016/17 โดยเป็นการปล่อยให้ ตูลูส (ลีกเอิง-ฝรั่งเศส) ลงเล่น 17 นัด ยิง 1 ประตู จากนั้นในฤดูกาล 2017/18 ย้ายไปเก็บเลเวลกับ เซลติก ยิง 11 ประตู จาก 29 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งจากผลงานดังกล่าว ทำให้ถูกซื้อขาด หลังจบฤดูกาลนั้น

ฤดูกาล 2018/19 อ็อดสัน เอดูอาร์ เป็นตัวหลักของ เซลติก อย่างเต็มตัว ยิง 23 ประตู จาก 52 นัดรวมทุกรายการ แบ่งเป็นการยิงในลีก 15 ประตู จาก 32 นัด พาทีมคว้าแชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ลีก พ่วงด้วยแชมป์สกอตติชคัพ และแชมป์สกอตติชลีกคัพ แล้วในฤดูกาล 2019/20 อ็อดสันก็ยิงอีก 29 ประตูจาก 47 นัด คว้าแชมป์ได้ทั้งสามถ้วยเหมือนซีซั่นที่แล้ว

ฤดูกาล 2020/21 อ็อดสัน เอดูอาร์ ยังคงยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง กดไปอีก 22 ประตูจาก 40 นัดรวมทุกรายการ แต่ไม่สามารถพาทีมป้องกันแชมป์ได้สักถ้วย อย่างไรก็ตาม เขาเป็นดาวซัลโวของลีก และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของสกอตติช พรีเมียร์ลีก 2020/21

ฤดูกาล 2021/22 อ็อดสันลงเล่นให้ เซลติก ได้แค่ 4 นัด ก็ถูก คริสตัล พาเลซ ซื้อตัวไปร่วมทีม เปิดตัวในวันที่ 11 กันยายน 2021 (พรีเมียร์ลีก นักที่ 4) เขาลงไปแทนที่ คริสเตียน เบนเตเก้ ในนาที 84 แล้วกด 2 ประตูใส่ สเปอร์ ช่วยให้ทีมชนะ 3-0 จากนั้นได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปถึงวันที่ 23 มกราคม 2022 อ็อดสัน ลงเล่นเป็นตัวจริง ร่วมกับ ฌอง-ฟิลลิปส์ มาเตต้า และ ไมเคิล โอลิเซ่ จัดการยิง 1 ประตูใส่ ลิเวอร์พูล (แพ้ 1-3) แล้วจบซีซั่นนี้ด้วยการยิง 6 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ จาก 31 นัดรวมทุกรายการ

ฤดูกาล 2022/23 อ็อดสัน เอดูอาร์ ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 35 นัด (ตัวจริง 20 สำรอง 15) ยิง 5 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์ แบ่งเป็นการยิง 1 ประตูใส่ เชลซี (แพ้ 1-2) เซาแธมป์ตั้น (ชนะ 1-0) และยิง ลีดส์ ได้ทั้งเหย้า (ชนะ 2-1) และเยือน (ชนะ 5-1)

ฤดูกาล 2023/24 (ปัจจุบัน) อ็อดสัน เอดูอาร์ ยังอยู่กับ คริสตัล พาเลซ เปิดฤดูกาลนัดแรกด้วยการยิง 1 ประตูในเกมชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0 ส่วนนัดที่ 2 ที่แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 กับนัดที่ 3 ที่แบ่งแต้ม เบรนท์ฟอร์ด 1-1 ก็ได้ลงเป็นตัวจริงทั้ง 2 นัด แต่ยิงเพิ่มไม่ได้
#6

กองกลางของพรีเมียร์ลีก ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคน และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ดีแคลน ไรซ์ เป็นนักเตะสัญชาติอังกฤษ ที่ตอนนี้กำลังเล่นให้กับขุนค้อน เวสท์แฮม และยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย เราลองมาทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันดีกว่า

ชื่อเต็ม ดีแคลน ไรซ์
วันเกิด 14 มกราคม 1999 (24 ปี)
สถานที่เกิด คิงส์ตันอัพพอนเทมส์, สหราชอาณาจักร
ส่วนสูง 185 เซนติเมตร
ตำแหน่ง กองกลางตัวรับ

เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ ดีแคลน ไรซ์

ไรซ์ เริ่มรู้จักฟุตบอล และให้ความสนใจกับกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จัก เมื่อนั้นอายุของเขาเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้น ไรซ์ ก็ได้เข้าร่วมกับ อะคาเดมี่ ของสโมสรเชลซี เขาได้ซ้อมอย่างหนัก และเอาจริงเอาจังมาก ในกีฬาฟุตบอล หลังจากนั้นเขาได้ย้ายอะคาเดมี่ จากแต่เดิมอยู่กับ เชลซี เขาได้ย้ายไปซบกับ

อะคาเดมี่ของ เวสท์แฮม ยูไนเต็ด และที่นี่เอง ที่ทำให้เจ้าตัวพัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมถึงการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ก็เริ่มจากที่นี่เช่นกัน
หลังจากที่เขาได้อยู่กับอะคาเดมี่ ตัวของ ไรซ์ ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า เขามีความตั้งใจ และมีความสามารถเพียงพอ ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ทำให้สโมสร ไม่ลังเลที่จะต่อสัญญากับ ไรซ์ เพราะมองเห็นว่าหนุ่มคนนี้ จะเป็นคนที่เข้ามาช่วยทีมขุนค้อนในอนาคตได้อย่างแน่นอน

ไรซ์ ถูกจับให้เซ็นต์สัญญาการเป็นนักเตะ ด้วยอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น และถูกส่งให้ไปเล่นกับชุดเยาวชนของ เวสท์แฮม หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าตัวก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในระดับอายุไม่เกิน 23 ปี โดยเริ่มเล่นครั้งแรกเมื่อปี 2017 จากการเป็นตัวสำรอง ซึ่งเกมนั้นก็เป็นทางด้าน เวสท์แฮม ที่สามารถเก็บชัยได้ ทำให้อนาคตของ ไรซ์ เริ่มสดใสมากขึ้น

หลังจากนั้น ไรซ์ ก็ได้รับความไว้วางใจให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ โดยนัดแรกพบกับ เซาแธมตัน และเริ่มยิงประตูแรกให้กับทีม เมื่อเจอกับ อาร์เซนอล หลังจากนั้นเขาก็ได้รับโอกาสให้ลงเป็นตัวจริงตลอดมา และก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ทีมจำเป็นต้องมีเขา เป็นนักเตะที่อยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน และเป็นส่วนสำคัญที่พาทีม เวสแฮม ได้มีโอกาสได้เล่นเกม ยูโรป้า คอนเฟอเรนส์ ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน

รางวัลส่วนตัว

•   West Ham United Young Player of the Year: 2016–17, 2017–18, 2018–19
•   West Ham United Player of the Year: 2019–20, 2021–22, 2022–23
•   FAI Young International Player of the Year: 2018
•   UEFA Europa League Team of the Season: 2021–22
•   UEFA Europa Conference League Player of the Season: 2022–23
#7

วิลเลียม ซาลิบา กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสของ อาร์เซน่อล
ทีมชาติ : ฝรั่งเศส 8 นัด – 0 ประตู (2022-?)
สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล 36 นัด – 3 ประตู (2019-?)

วิลเลี่ยม ซาลิบา (William Saliba) เกิดวันที่ 24 มีนาคม 2001 ที่ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นเล่นฟุตบอล ระดับเยาวชนกับ อคาเดมี่ของ AS Bondy ช่วงปี 2008-2014 จากนั้นย้ายไปอคาเดมี่ของ FC Montfermeil ช่วงปี 2014-2016 แล้วมาอยู่กับ แซงต์ เอเตียน ก่อนจะได้สัญญาอาชีพในปี 2018

ฤดูกาล 2018/19 ได้ลงเล่นให้ แซงต์ เอเตียน 19 นัดรวมทุกรายการ หลังจบฤดูกาลถูก อาร์เซน่อล ดึงตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ พร้อมปล่อยให้ แซงต์ เอเตียน ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2019/20 ได้ลงเล่น 17 นัดรวมทุกรายการ

ฤดูกาล 2020/21 วิลเลี่ยม ซาลิบา ถูกส่งให้ นีซ ยืมตัวไปใช้งาน ได้ลงเล่น 22 นัดรวมทุกรายการ แล้วถูกปล่อยยืมต่อเนื่องในฤดูกาล 2021/22 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ ซาลิบาทำผลงานได้ดีที่สุด โดยเป็นตัวหลักของ มาร์กเซย์ ลงเล่นมากถึง 52 นัดรวมทุกรายการ แล้วระหว่างฤดูกาล ซาลิบาถูกเรียกไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่อีกด้วย โดยได้ลงสนามถึง 8 นัด ภายในปี 2022 ปีเดียว

ฤดูกาล 2022/23 วิลเลียม ซาลิบา กลายเป็นแกนหลักของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ต้นฤดูกาล ยืนเซนเตอร์ร่วมกับ กาเบรียล มากัลเญส ขนาบข้างฝั่งซ้ายด้วย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ส่วนฝั่งขวาเป็น เบน ไวท์ ในช่วง 27 นัด ซาลิบาเป็นตัวจริงทุกนัด มีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โชคร้ายที่หลังจากนั้น เขาได้รับบาดเจ็บ พลาดการลงสนามใน 11 เกมที่เหลือ ปืนใหญ่โดนเรือใบ แซงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 คะแนน
ฤดูกาล 2023/24 (ปัจจุบัน) วิลเลียม ซาลิบา ยังอยู่กับ อาร์เซน่อล ลงเล่น 3 นัดรวมทุกรายการ จ่าย 1 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก นัดแรก ที่เอาชนะ ฟอเรสต์ 2-1

ในส่วนของการรับใช้ชาติ วิลเลียม ซาลิบา เปิดตัวกับ ทีมชาติฝรั่งเศส วันที่ 25 มีนาคม 2022 ในเกมอุ่นเครื่องที่ชนะ ไอวอรีโคสต์ 2-1 โดยลงเป็นสำรองไปแทนที่ ราฟาเอล วาราน ในนาที 58 แล้วได้ยืนเซนเตอร์ร่วมกับ เธโอ เอร์กน็องเดซ และ ฌูลส์ คูนเด้ แล้วอีก 4 วันให้หลัง ซาลิบาได้ลงเป็นตัวจริง ในเกมอุ่นเครื่องที่ทีมชนะ แอฟริกาใต้ 5-0 โดยยืนเป็นสามเซนเตอร์ร่วมกับ ราฟาเอล วาราน และ เพรสเนล คิมเพมเบ้

หลังจากนั้น วิลเลียม ซาลิบา ยังได้ลงสนามให้ทัพเลอเบลอส์อย่างต่อเนื่อง นั่นรวมไปถึงการติดทีมไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ แต่ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ซาลิบาได้ลงเล่นแค่นัดเดียว ในเกมนัดที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่ม ที่ทีมแพ้ ตูนิเซีย 0-1 โดยลงไปแทน ราฟาเอล วาราน ในนาที 63
#8

ถ้าจะพูดลีกฟุตบอลที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลก มีแฟนบอลติดตามอยู่ทั่วทุกมุมโลกมากที่สุด ย่อมต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าคือ พรีเมียร์ลีก แห่งประเทศอังกฤษ เพราะที่นี่มีการแข่งขันที่สูงมาก ทีมใหญ่ไม่ได้ผูกขาดแม้ว่าจะเจอทีมที่เล็กกว่า ซึ่งพร้อมจะแพ้ได้ตลอดเวลา แล้วลีกนี้ยังเต็มไปด้วยทีมชื่อดังมากมาย อาทิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล แค่เพียง 2 ทีมนี้ก็มีแฟนบอลทั่วโลกเยอะจนนับไม่ถ้วนแล้ว นอกจากนั้นยังมี อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอีกมากมาย จึงนับได้ว่านี่คือสุดยอดลีกที่หากเป็นแฟนฟุตบอลย่อมไม่พลาดติดตาม

สำหรับที่มาของ พรีเมียร์ลีก ไม่ได้ถูกตั้งชื่อนี้ตั้งแต่ต้น โดยเปลี่ยนมาจากชื่อเดิมคือ ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ก่อนที่จะใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในฤดูกาล 1992-1993 ที่พอเปลี่ยนมาเป็นชื่อใหม่ ความนิยมได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับเรื่อยมาต่อจากนั้น ทั้งความสำเร็จของแต่ละทีม การลงทุนของกลุ่มลงทุนทั่วโลก การหลั่งไหลเข้ามาของนักฟุตบอลระดับโลกมากมาย ค่อยๆเปลี่ยนให้ พรีเมียร์ลีก การเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่เข้มข้นที่สนุกที่สุดจนถึงปัจจุบัน

ทำเนียบทีมที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้มากที่สุดตลอดกาล

นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศเป็น พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 1992-1993 ทีมที่ประเดิมคว้าแชมป์ได้เป็นทีมแรกก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือที่เรียกสั้นๆกันว่า แมนยู นับรวมแล้วจนถึงฤดูกาลปัจจุบัน 2022-2023 ทีมที่คว้าแชมป์ได้ล่าสุดก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และหากนับรวมทั้งหมด ทีมที่คว้าแชมป์ได้มากที่สุดมีดังนี้

- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 13 สมัย
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7 สมัย
- เชลซี 5 สมัย
- อาร์เซน่อล 3 สมัย
- แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ทีมละ 1 สมัย


แล้วหากนับรวมทั้งหมดตั้งแต่ชื่อเดิม ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ทีมไหนที่คว้าแชมป์รวมได้มากที่สุดของประเทศอังกฤษ อันดับ 1 ก็ยังคงเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนเดิม ที่คว้าแชมป์รวมกันได้มากที่สุด 20 สมัย ตามมาด้วยอันดับ 2 คู่ปรับตลอดกาล ลิเวอร์พูล ที่ห่างกันแค่สมัยเดียว ทำได้ 19 สมัย และที่ 3 ได้แก่ อาร์เซน่อล 13 สมัย ด้วยกัน

TOP 10 ทีมที่คว้าแชมป์ลีกมาครองได้มากที่สุดตลอดกาล

1.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 20 สมัย
2.ลิเวอร์พูล 19 สมัย
3.อาร์เซน่อล 13 สมัย
4.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 9 สมัย
5.เอฟเวอร์ตัน 9 สมัย
6.แอสตัน วิลล่า 7 สมัย
7.เชลซี 6 สมัย
8.ซันเดอร์แลนด์ 6 สมัย
9.เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ 4 สมัย
10.นิวคาสเซิ่ล 4 สมัย


ปัจจุบันพรีเมียร์ฤดูกาลใหม่ 2023-2024 ได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ท้ายสุดทีมไหนจะครองความยิ่งใหญ่ในฤดูกาลนี้ไปครอง ต้องจับตาดูไปพร้อมๆกัน
#9

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีวัดอยู่แห่งหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศไทย นั่นก็คือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ทั้งตั้งอยู่ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยตัววัดซ่อนเร้นอยู่ในหุบเขาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นมาได้ในสถานที่แห่งนี้ แต่วัดนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆแล้ว และในปี 2023 ตัววัดก็ได้เสร็จสมบูรณ์พร้อมในหลายๆด้าน ทั้งตัวของวัดเองที่ได้สร้างเรื่อยมา รวมถึงเส้นทางการเดินทางเข้าไปที่สะดวกง่ายดายกว่าที่ผ่านมาเยอะทีเดียว หากใครชื่นชอบการไปท่องเที่ยวยังวัด อย่าพลาดเด็ดขาดกับที่นี่

ความสุดยอดของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วมีอยู่เยอะมากๆ เริ่มที่บริเวณของตัววัดที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยเขาสีเขียวรายล้อมทุกทิศทาง ซึ่งวัดได้ตั้งอยู่ตรงกลางอย่างสง่าโดดเด่นและสวยงามด้วยประติมากรรมที่น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นลวดลายต่างๆ กระเบื้องในการตกแต่ง มีพระที่น่านับถืออยู่มากมาย รวมถึงหลักธรรมคำสอนต่างๆ หลอมรวมกันให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดยอดนิยมมากๆในปัจจุบัน ที่ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะจนนับไม่ถ้วนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญๆที่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เยอะมากๆ

จุดเด่นของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

เจดีย์พระธาตุผาแก้ว
นี่คือไฮไลท์สำคัญของวัดแห่งนี้ คืองานประติมากรรมที่สวยสดงดงามเกินบรรยาย ทั้งมีความสูงที่ที่ทำเอาขาสั่นได้ง่ายๆหากเดินขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วหากเดินขึ้นไปจนถึงยอดสุดของเจดีย์แล้ว จะมองเห็นวิวที่อลังการที่อยู่รอบๆของวัดได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว หากได้มาแนะนำว่าต้องขึ้นมาถึงยอดให้ได้

พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
นี่คือองค์พระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่มากๆ โดยมี 5 พระองค์เรียงติดกัน ด้วยความใหญ่โตมโหฬาร ทำให้สามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ ส่วนเรื่องความสวยงามไม่ต้องพูดถึง เพราะทำออกมาได้เยี่ยมยอดอย่างไร้ที่ติ แล้วหากมาในช่วงที่มีหมอกลงจางๆล่ะก็ จะต้องอึ้งกับความงดงามของสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

อากาศดีตลอดทั้งปี
เขาค้อ คือสถานที่ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วว่าเป็นที่ที่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้การมาท่องเที่ยวยังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วน่าประทับใจเข้าไปอีก ทั้งความสวยงามของวัดที่สวยได้ขนาดนี้ในกลางหุบเขาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ ทั้งอากาศที่เย็นสบายๆมาพร้อมกับหมอกจางๆกับลมหนาวที่เข้ามาปะทะตัวเรา

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว คือวัดมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย หากยังไม่เคยมาด้วยตัวเอง แนะนำว่าไม่ควรพลาด เพราะสถานที่แห่งนี้ดีเกินคำบรรยายแน่นอน
#10

เมื่อเอ่ยชื่อถึง "น้ำตกนางรอง" ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี เป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมใน จ.นครนายก เป็นที่เที่ยวอันดับต้นๆ ที่คนกรุงเทพเลือกมาเที่ยว เพราะว่าระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่ เดินทางสะดวกสบายมาก เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้ดีเลย คนที่ชื่นชอบธรรมชาติ อยากจะหาที่พักใจ เติมไฟให้กับชีวิต มาที่น้ำตกนางรอง ไม่มีคำว่าผิดหวังกลับไป คนที่ทำงานอยู่กรุงเทพ หรือจังหวัดใกล้เคียง อยากจะหาสถานที่พักผ่อนแบบธรรมชาติ ถ่ายรูปสวย และลงเล่นน้ำได้ ที่น้ำตกนางรอง มีครบทุกอย่าง

"น้ำตกนางรอง" เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีความร่มรื่น เย็นฉ่ำตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ที่น้ำตกแห่งนี้ก็ไม่เคยแห้ง จึงสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี น้ำตกที่นี่จะมีชั้นหินที่ลดหลั่นลงมาเรื่อยๆ ทำให้ดูแล้วสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปชมวิวที่สุดเลยแหละ ท่านสามารถเดินเข้ามาและจับจองสถานที่นั่งพักผ่อนได้เลย มีทั้งที่เป็นม้านั่ง หรือท่านใดที่จะปูเสื่อนั่งริมน้ำตกก็ได้เหมือนกัน ส่วนใครที่อยากจะลงแช่น้ำเย็นๆ ก็เล่นได้สบาย ระดับน้ำกับลังพอดี ลงเล่นได้สบายเลย

ส่วนเรื่องอาหารการกิน หรือว่าที่พัก ก็มีให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างจุใจ อาหารถือว่าอร่อยเลยแหละ ยิ่งได้นั่งกินริมน้ำตก ก็ยิ่งจะเพิ่มความฟินขึ้นไปอีก มีทั้งของฝาก เสื้อผ้า และของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ ส่วนเรื่องของลานจอดรถ ก็มีให้บริการตรงส่วนหน้าที่เป็นทางเข้า ซึ่งมีที่จอดที่เพียงพอ กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวที่นี่ นักท่องเที่ยวที่มาจากกรุงเทพ สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้เลย

กิจกรรมที่น่าสนใจ 
ที่น้ำตกนางรอง เหมาะกับการนั่งพักชมวิว,เล่นน้ำ,นั่งทานอาหาร,เดินชมวิวถ่ายรูป

การเดินทาง
สามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวได้ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถตู้โดยสารสาธารณะ หากเดินทางมาจากกรุงเทพ หรือจากห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 3049 ถนนเส้น รังสิต-นครนายก ระยะทางทั้งหมดประมาณ 70-80 กิโลเมตร ถึงตัวเมืองนครนายก จากนั้นก็จะผ่านวัดหลวงพ่อปากแดง แล้วก็เลี้ยวขวา ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกนางรอง

ค่าบริการในการเข้าชม
• รถตู้พร้อมคนขับ 100 บาท ผู้โดยสาร คนละ 10 บาท/คน
• รถยนต์ ค่าบริการ 50
• รถจักรยานยนต์ 10 บาท
• ผู้ใหญ่ 10 บาท
• เด็กส่วนสูงน้อยกว่า 120 ซ.ม. ฟรี

แนะนำที่เที่ยวเพิ่มเติม

สำหรับท่านที่ต้องการเที่ยวเพิ่มเติม ในระแวกใกล้เคียง มีที่เที่ยวที่น่าสนใจได้แก่ น้ำตกสาลิกา น้ำตกวังตะไคร้ เขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งห่างเกินเพียงแค่ 3-5 กิโลเมตรเท่านั้น เรียกว่ามาที่เดียว ไปต่อได้อีกหลายที่สบายๆ เลย

สถานที่ตั้งของน้ำตกนางรอง
อยู่ที่ ตำบล หินตั้ง อำเภอ เมืองนครนายก จังหวัด นครนายก 26000 เบอร์โทรศัพท์ 0-3731-2282, 0-3731-2284